8 ฟีเจอร์ ส่งเสริมการเรียนรู้ ในห้องเรียนดิจิทัล (Digital Classrooms)

ในอดีต โรงเรียนมักจะไม่อนุญาตให้นักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อการเรียนรู้ในห้องเรียน เพื่อจำกัดความเสี่ยงที่เกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือในทางที่ผิด

แต่ในปัจจุบันหลังจากการแพร่ระบาดของ COVID 19 ผ่านไป การใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อการเรียนรู้ภายในห้องเรียน กลายมาเป็นเรื่องปกติมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ความต้องการซอฟต์แวร์ MDM เพิ่มมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการใช้อุปกรณ์มือถือผิดวัตถุประสงค์ของนักเรียน

การใช้ซอฟต์แวร์ MDM ช่วยให้คุณครูสามารถจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาและแอปพลิเคชันที่ไม่เหมาะสมหรือรบกวนสมาธิของนักเรียน รวมถึงสามารถติดตามและจัดการกิจกรรมต่างๆ บนอุปกรณ์ของนักเรียนได้

การเรียนรู้ ใน Digital Classroom

ด้วยความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของ Mobile Device Management Software(MDM) ทำให้โรงเรียน ต่างตระหนักถึงประโยชน์อันมหาศาลที่อุปกรณ์เหล่านี้นำมาสู่ห้องเรียน และเห็นถึงความสำคัญของการจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่มากขึ้น

การใช้ซอฟต์แวร์นี้ในโรงเรียน ช่วยทำให้นักเรียน มีประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญไม่แพ้กัน ยังช่วยให้การสอนของครูง่ายขึ้นอีกด้วย 

นอกเหนือจากซอฟต์แวร์การจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ (MDM) แล้ว โรงเรียนยังต้องการ Classroom Management Software อีกด้วย เพื่อให้แน่ใจว่า โรงเรียนไม่เพียงแต่สามารถ monitor และ restriction อุปกรณ์ ได้เท่านั้น แต่ครูยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนในห้องเรียนดิจิทัล(Digital Classroom) ได้อีกด้วย

เมื่อใช้ทั้ง 2 ซอฟต์แวร์ข้างต้นร่วมกัน จะทำให้คุณครูมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพครบครับสำหรับการสอนในห้องเรียนดิจิทัล (Digital Classroom)

ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงฟีเจอร์ที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ในห้องเรียนดิจิทัล (Digital classroom) ทั่วโลก

1. ครูเห็นหน้าจอของนักเรียนแบบ real time ด้วย Live Screen Views

การที่ครูผู้สอนจะรู้ว่านักเรียนในห้องเรียนนั้นมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเรียนหรือไม่ หรือตามเนื้อหาทันมากน้อยเพียงใดนั้น ทำได้ยากเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากนักเรียนสามารถหันไปสนใจสิ่งอื่นๆได้ตลอดเวลา และการมองเห็นหน้าจอของนักเรียนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนในห้องเรียน หรือแบบออนไลน์ก็ตาม

Live Screen Views จึงเข้ามาช่วยตอบโจทย์ในส่วนนี้ เครื่องมือนี้จะช่วยให้ครูสามารถเห็นหน้าจอของนักเรียนทุกคนได้ และรู้ว่านักเรียนกำลังทำอะไรอยู่บ้างระหว่างที่อยู่ในชั้นเรียน

เพื่อช่วยให้คุณครูมั่นใจได้ว่านักเรียนทุกคนกำลังจดจ่ออยู่ในเนื้อหาเดียวกันจริงๆ และรู้ว่านักเรียนคนใดไม่สนใจกับการเรียนบ้าง เช่น กำลังดู Youtube หรือ เล่นเกม เป็นต้น

โดยปกติแล้วการทำให้นักเรียนโฟกัสกับบทเรียนอยู่ตลอดนั้นเป็นเรื่องยาก ยิ่งถ้าพวกเขามีสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์มือถือด้วยแล้ว ยิ่งทำให้การควบคุมนั้นยากขึ้น ดังนั้น ฟีเจอร์การดูหน้าจอแบบเรียลไทม์( live screen views ) จึงเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการช่วยให้ครูแน่ใจว่านักเรียนกำลังตั้งใจเรียนอยู่กับสิ่งที่ถูกต้องในห้องเรียนอย่างแท้จริง

มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ live screen views ระหว่างชั้นเรียนออนไลน์กันเถอะ

2. ทุกคนในห้องเรียนมองเห็น Presentation อย่างชัดเจนด้วย Screen Sharing

เทคโนโลยีการแชร์หน้าจอเป็นนวัตกรรมที่ปูทางไปสู่การพัฒนา และการมีส่วนร่วมในห้องเรียนดิจิทัล

การแชร์หน้าจอช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเรียนในชั้นเรียนที่มีการพรีเซ้นต์หรือการบรรยาย นอกจากนี้ เมื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสนำเสนอผลงานของตนเองต่อชั้นเรียน พวกเขาจะพัฒนาทักษะด้านการนำเสนอ และมีความมั่นใจในผลงานของตน

คุณครูสามารถใช้การแชร์หน้าจอเพื่ออธิบายหัวข้อที่ซับซ้อนให้กับทั้งชั้นเรียน หรือตอบคำถามของนักเรียนได้อย่างง่ายดาย 

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ‘การนำเสนอที่ดีด้วยการแชร์หน้าจอ

3. การเรียนการสอนที่ปราศจากสิ่งรบกวนด้วย ‘Eyes Up’

Eyes Up เป็นเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ของครูที่มีนักเรียนสมาธิสั้นในห้องเรียน

ช่วยให้ครูสามารถล็อกหน้าจอของนักเรียนทั้งชั้นได้ในทันที

ฟังก์ชั่นนี้มีประโยชน์คือช่วยให้การเรียนไหลลื่น และนักเรียนไม่จำเป็นต้องปิดอุปกรณ์ของตนเอง หรือทำให้อุปกรณ์เข้าสู่โหมด sleep ซึ่งทำให้เสียเวลา และทำให้นักเรียนเสียสมาธิกับการตั้งค่าต่างๆ

Eyes Up เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและสะดวก เพียงครูคลิกแค่ปุ่มเดียว ก็สามารถเปิดหรือปิดการใช้งานได้ เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับครูที่ต้องการดึงดูดความสนใจของนักเรียนทั้งชั้นไปที่การนำเสนอหน้าชั้นเรียน และเมื่อครูหรือนักเรียนนำเสนอต่อชั้นเรียนเสร็จแล้ว ครูก็สามารถอนุญาตให้นักเรียนกลับมาเข้าถึงอุปกรณ์ของตนได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

มาเรียนรู้ วิธีจัดการกับสิ่งรบกวนด้วย Eyes Up กันเถอะ

4. เข้าใจพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ของนักเรียนมากขึ้นด้วย ‘Activity Timeline’

Activity Timeline ช่วยให้ครูเข้าใจพฤติกรรมออนไลน์ของนักเรียน

มีรายงานให้ครูเห็นอย่างชัดเจน ว่านักเรียนแต่ละคนใช้เวลาไปกับกิจกรรมออนไลน์ใดบ้างในชั้นเรียน ด้วยฟังก์ชั่น Activity Timeline

ช่วยให้ครูเข้าใจพฤติกรรมของนักเรียนในชั้นเรียนของตนมากขึ้น เช่น รู้ว่า application หรือ website ใดบ้างที่นักเรียนเข้าใช้งานบ่อย และ application ใดบ้างที่นักเรียนไม่นิยมใช้งาน เป็นต้น

โรงเรียนยังสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกใช้ application ในการเรียนการสอนได้ง่ายขึ้น ผ่านข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่นักเรียนใช้ 

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ เข้าใจพฤติกรรมการใช้งานอุปกรณ์ของนักเรียนมากขึ้นด้วย ‘Activity Timeline’

5. สื่อสารกับนักเรียนด้วย Student Messaging

Student Messaging เป็นเครื่องมือสำหรับการสื่อสารกับนักเรียนที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ 

Student Messaging ช่วยให้ครูสามารถส่งข้อความถึงนักเรียนแบบ 1:1 หรือส่งถึงนักเรียนทั้งชั้นได้ทันที ไม่ว่านักเรียนจะเสียสมาธิหรือต้องการคำแนะนำ ข้อความง่ายๆ ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้เป็นอย่างมาก

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ สื่อสารกับนักเรียนด้วย Student Messaging

6. ป้องกันการลอกข้อสอบด้วย Modes

Modes มีคุณสมบัติเด่นในการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบดิจิทัล

Modes ผสมผสานระหว่างตัวกรองเว็บ(web filtering) กับเครื่องมือการจัดการชั้นเรียน(Classroom Managerment) ช่วยให้ครูสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีสมาธิและปราศจากสิ่งรบกวน

เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่ายนี้ จะทำให้การสอบแบบ online เป็นการสอบที่ป้องกันการคัดลอกได้!

ครูสามารถกำหนดเนื้อหาที่นักเรียนสามารถเข้าถึงได้อย่างชัดเจนระหว่างอยู่ในชั้นเรียน โดยเนื้อหาอื่นทั้งหมดจะถูกบล็อกโดยอัตโนมัติ 

Modes ใดๆ ที่สร้างขึ้นก่อนหน้า หรือตอนที่เริ่มต้นบทเรียน สามารถนำไปใช้ได้ เพียงแค่คลิกเพียงปุ่มเดียว

 Modes สามารถ active ได้ทันที ทุกเมื่อ ระหว่างบทเรียน ซึ่งช่วยให้ครูสามารถสลับไปมาระหว่างการเรียนปกติและ Modes ได้อย่างง่ายดาย เช่นสลับไปเป็นโหมด quizz หรือโหมด test ในระหว่างที่เรียนอยู่ และสลับกลับมาเป็นโหมดการเรียนปกติทันที เป็นต้น

ครูสามารถจำกัดการเข้าถึง app และ URL เฉพาะของนักเรียนระหว่างบทเรียน เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนยังคงมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเรียน หรืองานที่ได้รับมอบหมายด้วย Modes ของ Mobile Guardian เพื่อให้ครูสามารถดำเนินการสอนตามที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Modes

7. เรียนรู้อย่างปลอดภัยบนคลาวด์

การนำการกรองเว็บ(web filtering)มาใช้ในระบบการศึกษา ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น ทรงพลัง และมีประสิทธิภาพ ในการปกป้องนักเรียนให้ปลอดภัยและมีสมาธิขณะใช้งานอินเตอร์เน็ต

ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาเรียนหรือหลังเลิกเรียน web filtering ของ Mobile Guardian มอบวิธีการกรองเนื้อหาออนไลน์ที่ไม่เหมาะสมและเป็นอันตรายให้แก่โรงเรียนอย่างเรียบง่ายและครอบคลุม

ด้วยระบบคลาวด์และไม่ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี onsite, web filtering ของ Mobile Guardian ช่วยให้มั่นใจว่านักเรียนยังคงปลอดภัยขณะเรียนรู้และท่องเว็บไซต์ออนไลน์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด โดยมี URL มากกว่า หมื่นล้านรายการที่จัดหมวดหมู่ไว้อย่างชาญฉลาด เพื่อจำแนกและจำกัดเนื้อหาที่เป็นอันตรายได้อย่างง่ายดาย web filtering ของ Mobile Guardian จึงเป็นโซลูชันการกรองเว็บไซต์ที่ครอบคลุมสำหรับสภาพแวดล้อมการศึกษา

ด้วยการกรองเว็บไซต์บนคลาวด์ คุณสามารถมั่นใจได้ว่านักเรียนจะได้รับการปกป้องจากเนื้อหาที่เป็นอันตราย ไม่ว่าจะใช้โทรศัพท์มือถือ แอนดรอย หรือ Laptop ที่ใดก็ตาม

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนรู้อย่างปลอดภัยบนคลาวด์ได้ที่นี่

8. การเรียนรู้ด้วยวิดีโอ 

ปัจจุบัน การใช้ YouTube ในการเรียนการสอนเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ 

อย่างไรก็ตาม บางครั้งเนื้อหาที่รบกวนบน YouTube ก็ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน สิ่งนี้อาจส่งผลให้การใช้ YouTube ในชั้นเรียนสร้างความลำบากให้กับครู ผู้ดูแลระบบไอที และแม้แต่ผู้ปกครอง เนื่องจากพวกเขาพยายามคิดหาวิธีที่ทำให้นักเรียนมีสมาธิอยู่กับเนื้อหาเพื่อการศึกษาและอยู่ห่างจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยไม่ปฏิเสธการเข้าถึง Video ที่มีประโยชน์มากมายบน Youtube

ตัวกรอง YouTube ของ Mobile Guardian เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้โรงเรียนสามารถผสานวิดีโอ YouTube เข้ากับกิจกรรมในชั้นเรียนได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการรับข้อมูลที่เป็นอันตราย

ตัวกรอง YouTube ของ Mobile Guardian ช่วยให้ครูสามารถกรอง YouTube URLs, channels หรือแม้แต่ YouTubers เฉพาะเจาะจงได้ ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของเราจัดหมวดหมู่ YouTube เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่านักเรียนของคุณได้รับการปกป้องและอยู่กับงาน 

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้วยวิดีโอ

ยกระดับการเรียนรู้ ในห้องเรียนดิจิทัล

Mobile Guardian Campus Solution มอบฟีเจอร์ครอบคลุมทั้งหมดดังที่กล่าวมาข้างต้น โดยการออกแบบและกำหนดราคาสำหรับการศึกษาโดยเฉพาะ

ด้วยโซลูชั่น Mobile Guardian Campus Solution ทำให้ครูสามารถเข้าถึงเครื่องมือจัดการชั้นเรียนที่จะช่วยยกระดับสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบดิจิทัล(digital learning environment)ได้เป็นอย่างมาก 

ค้นหาว่า Campus สามารถผลักดันการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมดิจิทัลของคุณได้อย่างไร โดยการ booking a demo กับเราได้เลย

ก้าวไปพร้อมกันกับเรา,

ทีมงาน Mobile Guardian

Share

สร้างความเป็นเลิศแก่นักเรียนด้วยการจัดการอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ

Request a Demo